Results matter. Explore the compelling strategic and operational gains our customers have made using Centric PLM.
Industry focused. Solution specific. Join our team and customers for Centric PLM use cases, thought leadership, personal insights and more.
เร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้เนื่องจากผ่านการรับรองได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
“ก่อนใช้ PLM เรามีกระบวนการทำงานที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล… ทีมงานทำงานแบบออฟไลน์โดยใช้ Excel ติดตามทุกแง่มุมของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงการอนุมัติและการรับรองมาตรฐาน ลองนึกดูว่ามันซับซ้อนมากขนาดไหนกับการที่เรามีผลิตภัณฑ์ 4 ประเภทและแบ่งออกเป็นอีกประมาณ 20 ประเภทย่อย”
Luca Menegardo ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสารสนเทศของ Dainese แสดงให้เห็นว่า ก่อนที่จะนำ Centric PLM™ มาติดตั้งและใช้งาน ทีมต่างๆ ประสบปัญหาในการจัดการส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนและการตรวจสอบการรับรองด้านความปลอดภัยที่เข้มงวด โดยทำทั้งหมดนี้ไปพร้อมกับการสืบสานความเป็นอิตาลี
Menegardo กล่าวต่อว่า “Dainese สร้างขึ้นจาก 3 หลักสำคัญเชิงกลยุทธ์ ได้แก่ เทคโนโลยีและนวัตกรรม การออกแบบ และการขายตรงถึงผู้บริโภค สิ่งที่ท้าทายมากที่สุดที่เราเผชิญในฐานะธุรกิจคือการพัฒนาไปพร้อมกับการยึดมั่นในค่านิยม มรดกสืบสาน และ DNA ของเรา”
เมื่อมองมาที่ปัจจุบันนี้ ทีมงานต่างร่วมแรงร่วมใจกันได้อย่างสะดวกง่ายดายโดยใช้ “แหล่งข้อมูลจริงแหล่งเดียว” จึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์จะก้าวข้ามขีดจำกัดของนวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมยึดมั่นในมาตรฐานความปลอดภัยทั่วโลก
Dainese นำหน้าคู่แข่งได้อย่างไรจากการนำ PLM ไปใช้งาน และ Dainese ทำให้พนักงาน 25% จัดการคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์นับพันรายการได้อย่างราบรื่นหลังจากใช้ PLM ไปเพียง 9 เดือนได้อย่างไร
Dainese ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 โดย Lino Dainese ผู้ที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์เป็นชีวิตจิตใจ และได้ออกแบบชุดแข่งมอเตอร์ไซค์ทางเทคนิคชุดแรกสำหรับนักแข่งระดับตำนานอย่าง Giacomo Agostini ภารกิจของบริษัทในการ “ส่งเสริมศักยภาพของมนุษย์” ได้ก้าวไปไกลกว่ากีฬามอเตอร์สปอร์ต รวมถึงอุปกรณ์นิรภัยและเสื้อผ้าสำหรับการเล่นสกี ปั่นจักรยานเสือภูเขา ขี่ม้า แล่นเรือ และแม้แต่ชุดอวกาศอย่างชุดจำลองแรงโน้มถ่วงสำหรับสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) นอกจากนี้ แบรนด์อิตาลีอันน่าภาคภูมิใจนี้ยังดำเนินธุรกิจในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์ตามแบบฐาน (OEM) ที่ทำหน้าที่ผลิตสินค้าสำหรับแบรนด์สินค้าในครัวเรือน เช่น Ducati และ BMW
Dainese มีร้านค้า 38 แห่งทั่วโลก และเพิ่มจำนวนมากขึ้น 2 เท่าเป็น 250 ล้านยูโร การเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัทเป็นหนึ่งในแรงจูงใจหลักที่ทำให้ Dainese ต้องการปรับกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัยโดยอาศัยระบบการจัดการวงจรการผลิต (PLM)
ก่อนเริ่มค้นหาพันธมิตรด้าน PLM บริษัทแห่งนี้ใช้เวลาในการกำหนดเป้าหมายและการจัดทำรายการสิ่งที่ผู้ใช้และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลักคาดหวัง
“เรามีเรื่องท้าทายที่ซับซ้อนที่สุดเนื่องจากผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นของเราต้องผ่านการรับรองที่แตกต่างกัน วัตถุประสงค์ของโครงการ PLM คือเพื่อลดความซับซ้อนของเมทริกซ์นี้และแนะนำให้ใช้แนวทางที่เป็นมาตรฐาน ในแง่ของวิธีการทำงาน PLM จัดเป็นตัวเปลี่ยนแปลงขั้นตอนงานที่เราทำ และเป็นประตูสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นเลิศ” Menegardo อธิบาย
เนื่องจาก Dainese มีผลิตภัณฑ์เสื้อผ้ายืด อุปกรณ์ อุปกรณ์นิรภัย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอีกมากมาย จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการการทดสอบความปลอดภัยและการรับรองมากมายที่มีข้อแตกต่าง และสิ่งเหล่านี้ก็จำเป็นต้องดำเนินการให้เรียบร้อยก่อน จึงจะสามารถปล่อยผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้ Menegardo อธิบายว่า กำหนดการการพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นเรื่องที่น่าระทึกใจอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว แจ็คเก็ตแบบหนึ่งจะใช้เวลาพัฒนา 12-18 เดือน แต่หมวกกันน็อคมอเตอร์ไซค์อาจใช้เวลานานถึง 3 ปี เนื่องจากมีส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ที่ซับซ้อนและจำเป็นต้องทำงานร่วมกับวิศวกรเครื่องกล
“เราไม่สามารถลดหย่อนความปลอดภัยได้ ทุกสิ่งที่เราทำต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน อย่างแรก ผลิตภัณฑ์ต้องผ่านการทดสอบขั้นสูงสุดทางเทคนิคและทางกลในห้องปฏิบัติการของเรา จากนั้น ก็ต้องผ่านกระบวนการการอนุมัติที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ เพื่อให้สามารถขายในอิตาลีหรือในยุโรป ในสหรัฐอเมริกา ในญี่ปุ่น และเพื่อให้สามารถขายได้ทุกที่ทั่วโลก” Menegardo อธิบายอย่างละเอียด
หลังจากที่ได้วางแผนและติดตามความต้องการของลูกค้าที่พุ่งสูงขึ้นมาหลายปี Dainese จึงทราบว่า PLM มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาชื่อเสียงในการรังสรรค์เสื้อผ้าที่สวยงามและการใช้เทคนิคขั้นสูงไปพร้อมกับการเพิ่มรายได้และการเติบโตธุรกิจอย่างรวดเร็ว
Roberto Conte ผู้จัดการโครงการ PLM ของ Dainese เน้นย้ำว่ามีการปรับใช้ระบบได้อย่างราบรื่น แม้ว่าจะมีผู้เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากก็ตาม
“การติดตั้งและปรับใช้งานนั้นใช้เวลาประมาณ 9 เดือน (90% ของระยะเวลาดัวกล่าวเป็นการทำงานจากทางไกล) และตอนนี้เรามีผู้ใช้มากกว่า 100 รายที่ทำงานบนระบบ Centric PLM ตั้งแต่แรกเริ่ม เราสนับสนุนให้มีการทำงานร่วมกันระหว่างแผนก โดยเริ่มจากทีมพาณิชย์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ ทีมการตลาดผลิตภัณฑ์ ทุกแผนกในฝ่ายวิจัยและพัฒนา (แผนกการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แผนกทำแพทเทิร์น และแผนก BOM) ไปจนถึงแผนกจัดหาวัสดุ แผนกควบคุมคุณภาพ และแผนกซัพพลายเชน”
Dainese และ Centric Software ได้ร่วมมือกับผู้ผสานรวมระบบสองราย โดยใช้ประโยชน์จาก Agile Deployment Methodology℠ ของ Centric เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้คล่องตัวมากขึ้นและลดระยะเวลาของโครงการ หลังจากเปิดตัวใช้งานไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ Dainese ก็บรรลุวัตถุประสงค์จากการที่ผู้ใช้ยอมรับและเข้าใช้งานระบบ “มีพนักงานประมาณ 400 คนทำงานในสำนักงานใหญ่ของเราในอิตาลี ดังนั้นจึงมีพนักงาน 25% ใช้ PLM ในการทำงาน เราใส่สิ่งนี้ลงไปในอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ใช้งานได้สะดวกง่ายดาย” Luca กล่าวเสริม
“เราเปลี่ยนจากสถานการณ์ที่ทุกคนส่งไฟล์ที่ล้าสมัยให้กันผ่านทางอีเมลไปเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนที่ทำงานโดยใช้เครื่องมือเดียวกันในการพัฒนาคอลเลคชัน” Menegardo กล่าวสรุป “ตอนนี้ทีมของเราสามารถโฟกัสไปที่นวัตกรรมและการทดสอบ”
Dainese สามารถมองเห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่างการทำงานในรูปแบบ “เก่า” กับใหม่ได้ด้วย Centric PLM หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลในการติดตั้งและปรับใช้โซลูชันนี้ Dainese ก็ได้รับประโยชน์จากการทำงานร่วมกันและการสื่อสารระหว่างทีมที่เป็นไปอย่างง่ายดาย ส่งผลให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมหาศาล
รู้สึกทึ่งกับฟังก์ชันการทำงานของระบบและความสามารถในการจัดการชุดข้อมูลที่ซับซ้อน “เราจัดการสไตล์มากกว่า 3,000 แบบ ตัวแปรสี 10,000 รายการ และวัสดุ 9,000 รายการได้ภายในระบบ Centric PLM” เขากล่าว
การเปิดใช้งานแพลตฟอร์ม PLM ที่ล้ำสมัยของ Centric ไม่เพียงแค่ส่งผลต่อการทำงานในแต่ละวันของ Dainese แต่ยังขับเคลื่อนการเกิดการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจอีกด้วย
“โซลูชันนี้ยอดเยี่ยมมากในเรื่องการจัดการการเปลี่ยนแปลงและการเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้ เพราะการติดตั้งและปรับใช้ที่เป็นไปอย่างที่ราบรื่น เราจึงสามารถกำหนดแบบอย่างในบริษัทเกี่ยวกับวิธีการดำเนินโครงการให้ประสบความสำเร็จได้ นับว่ามีมาตรฐานสูงมาก!” Menegardo กล่าว
ความร่วมมือระหว่าง Centric และ Dainese นั้นให้ผลลัพธ์ยอดเยี่ยม แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ Menegardo มองเห็นศักยภาพในการขยายขอบเขตการดำเนินงานและการขับเคลื่อนนวัตกรรมให้ดียิ่งขึ้นไปอีก “เราต้องการใช้ PLM ในการดำเนินงาน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องของความอยู่รอด แต่เป็นเรื่องของการทำให้ธุรกิจเติบโตเร็วขึ้นและเร็วยิ่งขึ้นไปอีก และนั่นเป็นรากฐานที่เราต้องการสร้างในวันนี้และในอนาคต” เขากล่าวสรุป